ไม่รู้อาจสายเกินไป! Bitcoin คืออะไร มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร

Bitcoin คืออะไร ? สำหรับการลงทุนและเหล่านักแสวงโชคยุคใหม่ Bitcoin เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญสำหรับสร้างฐานทางการเงินที่มั่นคั่ง อย่างไรก็ตาม การจะได้มันมาครอบครองนั้นมันก็แล้วแต่ดวงของแต่ละคน ดั่งการลุ้นรับรางวัลจากชุดตัวเลขบนสลากล็อตเตอรี่ แต่เป็นการลุ้นด้วยหลักตัวเลขสุดซับซ้อนและยากจะเดาได้ในระดับดิจิทัล 

จนบางครั้งผู้คนก็กล่าวขานกันว่า มันเหมือนการขุดค้นล่ามหาสมบัติ 

วันนี้เราจะพาผู้อ่านทุกคนมาทำความรู้จักกับ บิตคอยน์ (Bitcoin) ให้มากขึ้น รวมทั้งร่วมเปรียบเทียบให้เห็นข้อดีและข้อเสียเพื่อจัด Best & Worse Case Scenario สำหรับรองรับปัญหาที่ตามมา

หากทุกคนพร้อมกันแล้ว เริ่มทำรู้จักเจ้าสิ่งนี้ไปด้วยกันแบบทีละสเต็ปกันเลย  

Bitcoin คืออะไร 

หากย้อนกลับไปสมัยดึกดำบรรพ์ มนุษย์รู้จักทำการค้าผ่านการนำสิ่งของมาแลกกัน (Barter system) กระทั่งเริ่มสร้าง ‘เงินตรา’ ทั้งในรูปของเหรียญกษาปณ์และธนบัตร ซึ่งเป็นแผ่นกระดาษน้ำหนักเบาที่แทนมูลค่าของเงินในแต่ละระดับ ภายใต้การควบคุมจากประเทศนั้น ๆ ที่ไม่ว่าเราจะทำธุรกรรมทางการเงินผ่านการโอนชำระผ่านแอพพลิเคชั่น (Application) เพื่อซื้อขายสินค้าหรือบริการหนึ่ง หรือเก็บไว้เก็งกำไรเพื่อนำไปแลกเปลี่ยนกับเงินคราสกุลอื่น กิจกรรมเหล่านี้ก็ยังมีตัวกลางหรือภาครัฐค่อยควบคุมมูลค่าให้คงตัวในระยะเวลาที่ยาวนานกว่า  

แต่กับบิตคอยน์ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น

บิตคอยน์ (Bitcoin) เป็นสกุลเงินดิจิทัลชนิดหนึ่ง ที่หลายคนต่างคุ้นหูในชื่อ Cryptocurrency ซึ่งกำเนิดมาจาก บล็อกเชน (Blockchain) เทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่เปิดโอกาสให้คนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถเห็นและตรวจสอบธุรกรรมบิดคอยน์ที่เกิดขึ้นบนโลกดิจิทัลได้โดยง่าย 

เหตุผลนี้เองจึงทำให้การทำธุรกรรมบิตคอยน์จึงปลอดภัยสูง เนื่องจากไม่อาจแก้ไขหรือบิดเบือนข้อมูลได้โดยง่ายเหมือนกรณีเอกสารสัญญาผิดพลาด ทว่าการไม่มีตัวกลางใดคอยสอดส่องและควบคุมมูลค่าคงตัว จึงทำให้ค่าราคาของบิตคอยน์ผันผวนขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เหล่าผู้ลงทุนจึงต้องอาศัยจังหวะและเวลาในการตัดสินใจเสี่ยงดวงลงทุนอยู่พอตัว

The Arrival of Bitcoin: จุติจากการลงทุนในโลกเดิม สู่การมาถึงของบิตคอยน์

ในโลกการลงทุนในยุคเก่า การระดมเงินทุนสักก้อนหนึ่งเพื่อลงไปเล่นในตลาดหุ้น อาจเป็นคำตอบครั้งล่าสุดของใครหลายคนที่ต้องการผลตอบแทนมหาศาลเพียงชั่วข้ามคืน หรือเพียงระยะเวลาอันสั้น แน่นอนว่าไม่ง่ายเลยที่จะได้กำไรกลับมาจากการลงทุน ซึ่งต้องเตรียมเงินขั้นต่ำอย่างน้อย 5,000 บาทขึ้นไป จำนวนเงินขั้นต่ำดังกล่าวคงเราเจ็บแสบไม่น้อยทีเดียว และยิ่งวางเงินลงทุนในมูลค่าที่สูงเฉียดไปมากเท่าไหร่ โอกาสเสี่ยงที่ยิ่งตกลงเจ็บหนักก็ยิ่งมีมากขึ้น หลายคนจึงถอดใจและค่อย ๆ ตายไปจากตลาดหุ้นอย่างเงียบสงบ 

คล้ายกับเหล่านางฟ้าที่กำลังเตรียมร่อนกายลงจากฟากฟ้า จุติจากโลกเก่า… สู่โลกใหม่

เมื่อนั้นการมาถึงของบิดคอยน์จึงเริ่มขึ้น นับตั้งแต่เดือนมกราคมในปี 2009 ได้มีบุคคลปริศนาซึ่งใช้นามแฝงว่า ‘ซาโตชิ นากาโมโตะ’ (Satoshi Nakamoto) เป็นผู้สร้างระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ ซึ่งเป็นอิสระจากตัวกลางอย่างบิตคอยน์ขึ้น สาเหตุที่บิตคอยน์นั้นเกิดขึ้นไม่แน่ชัดว่ามาจากเหตุผลใด แต่มีหลายคนวิเคราะห์และสันนิษฐานว่า บิตคอยน์นั้นถือกำเนิดขึ้นจากความต้องการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับหนึ่งในวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์อย่าง “วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์” (Hamburger Crisis) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากการปล่อยกู้สินเชื่อซื้อบ้านและที่พักอาศัยอย่างง่ายดาย ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นกะทันหันจากแต่ก่อนที่ดอกเบี้ยต่ำ ทำให้หลายคนไม่อาจจ่ายหนี้คืนได้ไหว จนเกิดการขาดทุนครั้งใหญ่ดั่งทฤษฎีโดมิโน่ ซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วทั้งโลก 

เหตุนี้เองจึงทำให้ Bitcoin ได้แก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการขจัดความล้มเหลวที่เกิดขึ้นจากคนกลางไป ความหวังใหม่ของผู้คนจึงกลับมาอีกครั้ง  

Bitcoin Era: เปิดโลกการขุดค้นหาสมบัติแบบใหม่ หลังก่อกำเนิด ‘บิตคอยน์’ 

การขุดบิตคอยน์ (Bitcoin Mining) นั้นเสมือนการผจญภัยล่าขุมทรัพย์ที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ผืนพิภพ ซึ่งล้วนแล้วต้องอาศัยปริศนา คำบอกใบ้ และโชคชะตาที่อาจเกิดในระหว่างการเดินทาง  เพื่อให้ได้ค้นพบสมบัติมหาศาลซึ่งนอนหลับซุกซ่อน ณ สถานที่ที่ไม่เคยคาดหมายมาก่อน 

แต่จะด้วยวิธีการอะไรล่ะ ที่จะได้มาซึ่งมหาสมบัติเหล่านั้น

หลายคนมักอ่านจากหลายบทความมาผ่าน ๆ ว่ามันเป็นกระบวนนำเหรียญบิตคอยน์ หรือ BTC ใหม่เข้าสู่ระบบบล็อกเชน เพื่อให้มูลค่าความต้องการขายเหรียญนั้นเพิ่มขึ้น เพื่อใช้หมุนเวียนแลกเปลี่ยนในระบบที่สมการคณิตศาสตร์อัดแน่นอยู่ทุกอณูราวกับเป็นทุกสิ่งของโลกดิจิทัล ซึ่งแน่นอนว่าเพียงลำพังสมองของมนุษย์และเสียมที่อยู่ในมือไม่อาจขุดค้นพบสิ่งใดได้เลย

เราจึงใช้ ‘ฮาร์ดแวร์’ ที่มีกำลังไฟสูงพอสมควรเป็นตัวช่วยในการขุดค้นพบและแก้สมการ รวมทั้งคาดเดาเลขฐานสิบหกจำนวน 64 ตัวร่วมกับตัวอักษรที่เป็นไปได้ว่าจะซุกซ่อนเงินมูลค่ามหาศาลไว้ ซึ่งต้องลงทุนทั้งเงินทุนและเวลามากสมควรกว่าจะขุดพบเจอ โดยต้องขุดค้นพบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

ใครหาสมบัติได้ก่อน ก็เป็นผู้ชนะ

แต่สำหรับคนธรรมดาที่ไม่อยากลงทุนไปผจญภัยขนาดนั้น และต้องการซื้อขาย ก็ย่อมทำได้ ปัจจุบันมีแหล่งซื้อขาย Bitcoin จำนวนมากตามเว็บไซต์ รวมถึงประเทศไทยก็มีแหล่งจำหน่ายบิตคอยน์ชื่อดังอย่าง Bitkub ให้สามารถเข้าไปดูรายละเอียดราคาและสามารถติดต่อธุรกรรมสั่งซื้อได้ 

 Bitcoin Advantage: ข้อได้เปรียบที่เป็นได้มากกว่า ‘สกุลเงิน’ ธรรมดา

หลากหลายเหตุผลที่ Bitcoin เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นจากเหล่านักลงทุน คงไม่พ้นจะกล่าวถึงข้อได้เปรียบที่ทางเราได้รวบรวมเหตุผลมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งไขข้อสงสัยให้หลายคนรู้แจ้งกระจ่างใจมากขึ้น

• รวดเร็ว เริ่มต้นลงทุนต่ำ 

เพียงเสี้ยวนาทีก็สามารถทำธุรกรรมด้านการเงินได้ไม่ยาก ซึ่งไร้ข้อจำกัดเรื่องเพดานจำนวนเงินและจุดหมายปลายทางที่จะส่งไป รวมถึงสามารถเริ่มต้นทุนลงตลาดบิดคอยน์ในราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่าการเล่นลงบนตลาดหุ้นอย่างมาก จึงเปิดโอกาสให้ผู้เล่นหน้าใหม่ที่ต้นทุนไม่หนามาก ร่วมแสวงโชคในการได้ผลตอบแทนกลับมาที่คุ้มค่าจะเสี่ยง  

• กระจายการตรวจสอบได้อย่างทั่วถึง

ด้วยเหตุผลที่บิตคอยน์เป็นอิสระจากการควบคุมมูลค่าจากคนกลางอย่างรัฐบาลและธนาคารกลาง จึงไม่มีผู้ใดที่มีอำนาจในการแช่มูลค่าเงิน ชาร์จค่าธรรมเนียม หรือแม้แต่เพิ่มความต้องการซื้อในตัวบิตคอยน์ และแน่นอนที่สุดว่า ไม่มีใครสามารถขโมยบิตคอยน์ไปได้ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขหรือกรณีใดก็ตาม 

• อัตราการโกงต่ำ ทำธุรกรรมโปร่งใส 

บิตคอยน์ได้มอบความเป็นส่วนตัวด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถทำธุรกรรมการซื้อได้โดยเก็บเป็นข้อมูลดังกล่าวไว้เป็นความลับ บิตคอยน์จึงเสมือนเงินตราบนโลกดิจิทัลที่แฮกเกอร์ไม่อาจเข้าไปแทรกแซงระบบบล็อกเชน (Blockchain Technology) ได้โดยง่าย ในขณะเดียวกัน เรายังสามารถไม่เปิดเผยตัวจริงได้อีกด้วย อีกทั้งการทำธุรกรรมก็เป็นไปอย่างโปร่งใส การซื้อขายบิตคอยน์จึงเกิดความปลอดภัยสูง    

Risk Investment: รวมสารพัดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

เมื่อมีข้อดีหลากหลายประการ ก็ย่อมมีสารพัดข้อเสียให้ต้องรับมือและเตรียมใจล่วงหน้าก่อนเริ่มลงทุน ซึ่งเป็นสิ่งที่พบและเกิดขึ้นบ่อย

• ค่าเงินผันผวนรวดเร็วกว่ามาก

เป็นข้อเสียอย่างแรกที่ทุกคนต้องพบเจอ เนื่องจากเงินตราดิจิทัลบนระบบบล็อกเชนอย่าง ‘บิตคอยน์’ ไม่มีคนกลางคอยควบคุมราคาและค่าคงตัว จึงทำให้มูลค่าในตัวบิตคอยน์สามารถแปรเปลี่ยนขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา บางวันอาจมีมูลค่าเท่ากับสิบล้าน แต่ในวันถัดอาจพบว่ามูลค่าตกลงพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย ทำให้บางทีมันอาจจะเป็นการเสี่ยงเกินไปหากจะเก็บบิตคอยน์ไว้เก็งกำไร 

• ไม่มีกฎหมายที่คอยควบคุมดูแลเพียงพอ

จุดบอดสำคัญของการลงทุนด้านบิตคอยน์คือการขาดกฎหมายใด ๆ เข้ามาควบคุม จัดการ และดูแล แม้ความปลอดภัยในการทำธุรกรรมจะสูง แต่หากมีช่องว่างให้เกิดการโกงเกิดขึ้น เป็นไปได้ว่าจะไม่มีสิ่งใดรองรับความปลอดภัยอื่นใดได้อีก 

• มีโอกาสเสี่ยงที่จะ ‘สูญหาย’

บิตคอยน์ทั้งหมดมีสิทธิ์หายไปได้อย่างแน่นอน หากฮาร์ดไดร์ฟเกิดล่ม หรือทั้งระบบเกิดความเสียหายจากการโจมตีของไวรัสคอมพิวเตอร์ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น ก็ไม่อาจหาทางกู้กลับมาได้ให้เหมือนเก่า จึงเป็นไปได้ที่จะทำให้ผู้ลงทุนเกิดขาดทุนและล้มละลายได้ในพริบตาเดียว การสำรองข้อมูลไว้เผื่อยามฉุกเฉิน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพื่อป้องกันความสูญหายที่เกิดขึ้น  

• การป้องกัน Bug ยังไม่เสถียร

การเกิด bug ที่คอยแทรกแซงหรือขัดขวางให้การทำธุรกรรมให้ไม่เป็นปรกติอย่างที่ควรจะเป็นสามารถเกิดขึ้นได้ในโลกดิจิทัล แต่เลวร้ายกว่านั้นหากไม่ผู้ไม่ประสงค์ดีอาศัยจังหวะจากช่องโหว่ที่เกิดขึ้น แสวงหาผลประโยชน์จนได้เม็ดเงินมหาศาลไปครอบครอง 

สรุป

บิตคอยน์ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่งถือกำเนิดได้ไม่นาน แต่ก็มีความปลอดภัยและความน่าสนใจมากพอ สำหรับคนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบัน อย่างไรก็ดีก่อนจะลงทุนในบิตคอยน์กึควรศึกษาตลาดรวมถึงดูกำลังทรัพย์ของตัวเองด้วย เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ